06.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน โอมานแอร์ (WY) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง
09.10 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินมัสกัต ประเทศโอมาน โดยสายการบิน โอมานแอร์เที่ยวบินที่ WY818 (บริการอาหารและ เครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6.10 ชั่วโมง)
***เที่ยวบินหรือเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายการบินเป็นผู้กำหนด***
ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องบิน เนื่องจากเป็นตั๋วกรุ๊ป การจัดที่นั่งจะเป็นระบบ RANDOM ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกัน ทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของสายการบิน
12.00 น. เดินทางถึง สนามบินมัสกัต ประเทศโอมาน (เวลาท้องถิ่น) จากนั้นรอต่อเครื่องเพื่อเดินทางสู่ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์(รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 3 ชั่วโมง)
15.00 น. ออกเดินทางสู่สนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์โดยสายการบิน โอมานแอร์เที่ยวบินที่ WY153 (บริการ อาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6.15 ชั่วโมง)
19.05 น. ถึง สนามบินซูริค เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์(เวลาประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง กรุณาปรับเวลาให้ตรงตามเวลาท้องถิ่น เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) ผ่านพิธี การตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร หลังรับสัมภาระเรียบร้อยนำท่านเข้าสู่ที่พัก ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่าน นั่งรถรางสู่ยอดเขาริกิ (Mt.Rigi) ราชินีแห่ง เทือกเขา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เดินทางโดยรถไฟฟันเฟือง ท่านจะได้ชมวิวแบบ พา โนราม่า ซึ่งได้ให้บริการมาตั้งแต่ปี 1871 เพื่อขึ้นพิชิต ยอดเขาริกิซึ่งมีความสูง 6,000 ฟุต หรือ 1,800 เมตร ด้วยรถไฟกลไกใช้ระบบไอน้ำ ซึ่งเป็นรถจักรที่เก่าแก่ ที่สุดสร้างเมื่อปี 1858 แต่ได้รับบูรณะเป็นอย่างดี เพลิดเพลินกับการชื่นชมธรรมชาติตลอดการเดินทาง จนถึงเขาริกิ เป็นจุดที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพอัน งดงามที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์จะมองเห็นทิวทัศน์รอบด้าน เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดของเทือกเขาแอลป์ และ ยังสามารถมองเห็นทะเลสาบจากยอดเขาริกิอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซุก (Zug) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที) เมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบที่มีประวัติศาสตร์ ยาวนานกว่า 800 ปี ปัจจุบันเป็นเมืองที่รวยที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และยังเป็นเมืองที่เรียกเก็บค่าภาษีใน อัตราต่ำที่สุดในโลกอีกด้วย ท่านสามารถเดินเที่ยวในเขตเมืองเก่าของซุกได้อย่างเพลิดเพลิน บรรยากาศของอาคาร บ้านเรือนที่ยังคงความเก่าแก่แต่สวยงาม พื้นถนนที่ปูด้วยหินจากยุคกลาง จัตุรัสที่มีน้ำพุโบราณประดับด้วยรูปปั้นอยู่ หลายจุด ไปจนถึงทะเลสาบซุกที่สวยงามและถูกโอบล้อมด้วยเทือกเขาที่อยู่ไกลออกไป ล้วนแล้วแต่เป็นมนต์เสน่ห์ของ เมืองเก่าแก่เล็กๆ แห่งนี้
นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (Luzern) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland) และ ตั้งอยู่ระหว่าง เทือกเขาปิลาตุส (Mount Pilatus) และ ภูเขาริกิ (Rigi) เป็นภูเขา ที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ลูเซิร์นเป็นเมืองที่มีความเป็นประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ให้ท่านได้ถ่ายภาพคู่กับ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) สัญลักษณ์ สำคัญของลูเซิร์นถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึก และ เป็นเกียรติแก่เหล่าทหารหาญชาวสวิสซึ่งส่วนใหญ่ เป็นชาวลูเซิร์นมากกว่า 700 คนที่ออกรบและ เสียชีวิตในฝรั่งเศสเมื่อครั้งเกิดสงครามปฏิวัติยุคพระ เจ้าหลุยส์ที่ 16 ซึ่งเป็นการเจาะเนื้อหินและแกะสลัก ขึ้นรูปเป็นประติมากรรมสิงโตตัวใหญ่สวยงามมาก แม้จะมีใบหน้าโศกเศร้าดังที่ว่าก็ตาม และอีกจุดหนึ่ง ที่น่าชมมากในย่านนี้ก็คือ สะพานไม้ชาเปล (Chapel bridge) สะพานที่ดูไม่เหมือนสะพานและมีอายุเก่าแก่มากกว่า 600 ปี ที่ว่าไม่เหมือนสะพานก็เพราะแวบแรกอาจดูคล้ายอาคารกลางน้ำ แต่จริงๆ แล้วสร้างขึ้นเพื่อใช้ข้ามไปมา ระหว่างสองฝั่งแม่นํ้ารอยซ์อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก : โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
เดินทางสู่ แคว้นอัลซาส (Alsace) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) อีกหนึ่งแคว้นของฝรั่งเศส ที่หลายคนต่าง ร่ำลือกันว่า เป็นแคว้นที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นเอาไว้เป็นอย่างดีดินแดนที่ยังคงอนุรักษ์วิถีชีวิตและ ความเป็นอยู่แบบเก่า รวมไปถึงอาคารบ้านเรือนที่ยังคงเป็นสถาปัตยกรรมท้องถิ่นที่มีความสวยงามไม่เปลี่ยนแปลง ลัด เลาะผ่านเมืองเล็กเมืองน้อยที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามตามแบบฉบับอัลซาสแท้ๆ และขึ้นชื่อในการผลิตไวน์จากองุ่น พันธุ์ Riesling หนึ่งในสุดยอดองุ่นที่นำมาผลิตไวน์ขาว
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านเอกิซไฮม์ (Equisheim) เป็น หมู่บ้านที่งดงามราวภาพวาดที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคอาลซาส มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมยุคกลางที่มีเสน่ห์ ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี และยังได้รับยกย่องให้เป็น "Plus Beaux Villages de France" (หมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส) นอกจากนี้ยัง เป็นหมู่บ้านที่อยู่ในเส้นทางไวน์ Alsace และมีชื่อเสียงใน ด้านการผลิตไวน์อีกด้วย อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองกอลมาร์ (Colmar) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที) เป็นเมืองเล็กๆน่ารัก ตั้งอยู่ใน แคว้นอัลซาส (Alsace) เป็น 1 ใน 8 แคว้นผลิตไวน์ สำคัญของฝรั่งเศสถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติคเมืองหนึ่ง ของประเทศฝรั่งเศส อันเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไวน์แหล่งปลูกองุ่นพันธุ์ดี เพื่อผลิตไวน์ชั้นเลิศบริเวณเชิงเขาของ เทือกเขาโวชจ์ ซึ่งมีไร่องุ่นจำนวนมากเคียงคู่ไปกับอุตสาหกรรมการผลิตไวน์ชั้นเยี่ยม นำท่านเดินเที่ยวชม สถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ ช่วยทำให้เมืองดูโรแมนติกยิ่งขึ้นมรดกทางสถาปัตยกรรมพบเห็นได้จาก โบสถ์แบบโกธิคและโรมันสไตล์ และอาคารเก่าหลายหลังสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 15 บ้านเรือนเรียงรายสองฝั่งคลองดู งดงามน่ารักจนได้รับการขนานนามว่า “ลิตเติ้ลเวนิส”อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง
นำท่านเดินทางสู่ เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง) เมืองหลวงแห่งแคว้นอัลซาส (Alsace) ของประเทศฝรั่งเศส และยังได้รับการยกย่องเป็นเมืองมรดกโลกด้านมนุษยชาติจากองค์การยูเนสโก เมืองซึ่งผสมผสาน 2 วัฒนธรรมคือ ฝรั่งเศสและเยอรมัน เนื่องจากในอดีตถูกผลัดเปลี่ยนอยู่ภายใต้การปกครองของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา ทั้งยังเป็นสถานที่ตั้งขององค์กรสำคัญของยุโรป อาทิ สภายุโรป องค์กรสิทธิมนุษยชน และศาล สิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป ที่นี่ยังเป็นเมืองมหาวิทยาลัยดังชั้นนำที่เกอร์เธ (Goethe) นักเขียนชาวเยอรมันเคยศึกษาอยู่
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก : โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางไปยัง เมืองเบิร์น (Bern) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมายังสวิตเซอร์แลนด์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามด้วยบ้านเรือน ในบรรยากาศสบายๆ ตามสไตล์เมืองเก่าทั่วไป ให้ท่านชม บ่อหมีสีน้ำตาล Bear Park สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุง เบิร์น จากนั้นเที่ยวชม ย่านเมืองเก่า (Old City of Berne) ซึ่งได้รับการบรรจุไว้ในรายชื่อมรดก โลกในปี ค.ศ. 1983 และก่อตั้งขึ้นในสมัย คริสต์ศตวรรษ ที่ 12 ตั้งอยู่บนภูเขาล้อมรอบด้วย แม่น้ำอาเร (Aare River) ชม มาร์คกาสเซ ย่าน เมืองเก่าที่ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้ และร้าน เสื้อผ้าบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์จึงเหมาะกับ การเดินเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200 – 300 ปี
ชมโบสถ์แห่งกรุงเบิร์น (The Cathedral of Bern) มหาวิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยยุคโกธิค ตั้งแต่ปี ค.ศ.1964 หอคอยมีความสูงราวๆ 100 เมตร สร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1893 ถือเป็นมหาวิหารที่สูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และ ถือเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของประเทศด้วย จากนั้นชม หอนาฬิกาดาราศาสตร์ ไซ้ท์ กล็อคเค่น (Zytglogge Clock Tower) หอนาฬิกายุคกลางที่มีชื่อเสียงที่สุดของย่านเมืองเก่าเบิร์น ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 อายุ 800 ปี จะมีโชว์ให้ดูทุกๆ ชั่วโมงที่นาฬิกาตีบอกเวลา ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ของกรุงเบิร์น ถัดจากหอนาฬิกาไปไม่ไกล จะเป็น ไอน์สไตน์เฮาส์ (Einstein House) ท่านสามารถ แวะถ่ายรูปภายนอกกับบ้านที่ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยอาศัยอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ รวมถึงภาพถ่าย เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่นักฟิสิกส์ชื่อก้องโลกคนนี้
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวอแว (Vevey) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองเล็กๆ น่ารักในรัฐโวด์ของ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บนชายฝั่งทางตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา ที่มีทิวทัศน์เบื้องหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ที่ งดงาม เวอแวเป็นเมืองในยุคกลางและยังเป็นแหล่งผลิตไวน์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศสวตเซอร์แลนด์ อีกทั้งเป็น ที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของบริษัทเนสต์เล่ ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอาหาร ด้วยภูมิประเทศที่สวยงามรายล้อมด้วยภูเขา และติดทะเลสาบเจนีวา จึงได้รับการขนานนามว่า "ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส" (Pearls of the Swiss Riviera)
เมืองเวอแว เป็นเมืองที่ศิลปินชื่อดังชาวอังกฤษอย่าง ชาร์ลีแชปลิน ได้มาใช้ช่วงเวลา 25 ปีสุดท้ายในชีวิต ที่เมืองแห่ง นี้ ภายหลังจากที่เค้าเสียชีวิตจึงได้มีการสร้างอนุสาวรีย์เพื่ออุทิศให้กับเขา หันหน้าไปทางทะเลสาบเจนีวา และได้ เปลี่ยนบ้านที่เคยอยู่ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ สำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับชีวิตของศิลปิน ท่านนี้อีกด้วย และไม่ไกลจาก อนุสาวรีย์ ชาร์ลี แชปลิน จะเห็น The Fork ส้อม ขนาดใหญ่ ทำจากสแตนเลสสูง 8 เมตร กว้าง 1.3 เมตร ออกแบบโดย JeanPierre Zaugg ชาว Neuchatel ตั้ง ตระหง่านตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1995 เพื่อเป็นการรำลึกวันครอบรอบ10 ปี ของ Alimentarium (พิพิธภัณฑ์ อาหาร) ซึ่งได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง Vevey เดินทางสู่ เมืองเจนีวา (Geneva) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองใหญ่อันดับสอง (รองจากซูริค ) ของ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในภาครอม็องดีอัน เป็นภูมิภาคที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นหลักใน สวิตเซอร์แลนด์ เจนีวามีสถานะเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐแห่งรัฐเจนีวา ในอดีตเมืองเจนีวานี้เคยอยู่ภายใต้การ ปกครองของโรมัน และฝรั่งเศส แต่เมื่อได้รับอิสรภาพจึงรีบหาพันธมิตรเพราะไม่อยากโดนรุกรานอีก โดยการเข้าร่วม เป็นสมาชิกพันธรัฐสวิส จากนั้นเจนีวาก็รู้จักกันอย่างกว้างขวางในนาม "เมืองแห่งองค์กรนานาชาติ"
นำท่านชม ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ทะเลสาบที่คล้ายรูปพระจันทร์เสี้ยว และเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดใน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ให้ท่านถ่ายรูปกับ น้ำพุเจทโด (Jet d'Eau หรือ แฌโด) ที่ฉีดสายน้ำพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศถึง 140 เมตร (เปิดเฉพาะวันอากาศดี) และถ่ายรูปกับ นาฬิกาดอกไม้สัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองเจนีวา
อิสระให้ท่าน เก็บภาพบรรยากาศ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก : โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
เดินทางสู่ เมืองโกล เดอ ปิยง (Col De Pillon) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ตั้งของสถานีกระเช้า ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่จุผู้โดยสารได้ถึง 125 คน สามารถชมทัศนียภาพได้ 360 องศา นำท่านขึ้นกระเช้ายักษ์รุ่นใหม่ เพื่อเดินทางสู่ ภูเขากลาเซียร์ 3000 ยอดเขากลาเซียร์ 3000 (Glacier 3000) ส่วนหนึ่งของภูเขากูดสตาร์ด (Gstaad Mountain) ที่ได้รับการขนานนามว่า "กลาเซียร์ 3000" (Glacier 3000) เพราะมีความ สูงอยู่เหนือระดับน้ำทะเลที่ 3000 เมตร ในวันที่ ฟ้าเปิด อากาศดีๆ ท่านจะสามารถมองเห็นวิว ยอดเขาของสวิสเซอร์แลนด์ ได้แก่ จุงเฟรา แมท เทอร์ฮอร์น และมองบลองก์ ได้อย่างชัดเจน ที่นี่ ยังให้ท่านได้ท้าทายความสูงโดยการเดินบน The Peak Walk by Tissot สะพานแขวนที่มี ความยาว 107 เมตร ข้ามหน้าผาที่ระดับความสูง 3,000 เมตร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (บนเขา)
นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองมิลาน (Milan) หรือที่คนอิตาเลียนเรียกว่า “ มิลาโน่ (Milano) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง) มิลานเป็นเมืองหลักของแคว้นลอมบาร์เดีย เป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือใหญ่อันดับ 2 ของประเทศอิตาลี มีประวัติศาสตร์ศิลปะและวัฒนธรรมที่หลากหลายผ่านสถานที่สำคัญมากมาย เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองผู้นำแฟชั่น ระดับแนวหน้าของโลก มีชื่อเสียงในการเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าแฟชั่นโมเดิร์นที่มีความทันสมัย เช่นเดียวกับ ปารีส และ นิวยอร์ค อีกทั้งมิลานยังเป็นหัวใจด้านเศรษฐกิจของอิตาลีเพราะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมเขต อุสาหกรรมที่หนาแน่นที่สุดของประเทศและเป็นศูนย์กลางการเดินทางเข้าอิตาลี โดยเฉพาะรถไฟมาจากประเทศอื่นๆ ในยุโรป มีสถาปัตยกรรมที่เป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองมิลานที่สุดก็คือ “มหาวิหารดูโอโม่” (Duomo di Milano)
อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก : โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเที่ยวชมแลนด์มาร์กของเมืองมิลาน ณ จัตุรัสกลางเมือง (Piazza del Duomo) จุดศูนย์กลางของเมืองเนื่อง ด้วยเป็นสถานที่ตั้งของ มหาวิหารดูโอโม่ (Duomo di Milano) วิหารโอ่อ่าใหญ่โตอลังการ สถาปัตยกรรมสไตล์ โกธิคสีขาวเด่นสวยงาม เป็นอันดับ 3 ของโลก เริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1386 แต่ระหว่างการก่อสร้างก็พบกับปัญหา และอุปสรรคมากมาย ทั้งปัญหาการเมือง และการเงิน กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ก็ใช้เวลาไปถึง 579 ปี เปลี่ยนคนก่อสร้าง ไปหลายชั่วอายุคน แต่มีสถาปนิกที่คุมการก่อสร้าง ที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้นั่นก็คือ ลีโอนาโด นาวินชี ศิลปินชื่อก้องโลกิหารนั้นมีการประดับประดาไปด้วยรูปปั้นกว่า 3,200 รูปที่สวยงาม และมียอดรวม 135 ยอด จนได้รับฉายาว่า “วิหารเม่น” นอกจากมหารวิหารดูโอโม่แล้วยังมีสัญลักษณ์เด่นอยู่อีก นั่นก็คือ อนุสาวรีย์พระเจ้าเอ็มมานูเอลที่ 2 (Monument to Vittorio Emanuele II) อนุสาวรีย์แห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในปี 1896 เพื่อเป็นเกียรติแด่พระเจ้าวิค เตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้ที่ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์องค์แรกของอิตาลีในปี 1861 เป็นรูปปั้นทรงม้าในอิริยาบทกำลังออกรบอยู่ บนแท่นหินอ่อน
บริเวณใกล้กันจะเป็น ห้างสรรพสินค้ากลาง เมืองมิลาน (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นี่เป็นห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ที่สุดในอิตาลี และเรียกได้ว่า เก่าแก่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมิลาน ศูนย์การค้าสุดหรูของผู้ หลงใหลแฟชั่นและอาหารชั้นเลิศแห่งนี้Galleria Vittorio manuele II ตั้งอยู่ใกล้ๆกับ The Duomo
นำท่านเดินทางสู่ Shopping Outlet Serravalle (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เอาท์เลทขนาดใหญ่ที่เน้น แบรนด์เนมในราคาสุดพิเศษจำนวนมากลดราคาสูงสุดถึง 70% แบรนด์ชั้นนำจากเกือบทั่วโลกมาให้เลือกซื้อเลือกช้อป กัน เช่น Gucci , Prada , Burberry, Stone Island , Valentino , Armani , boss , Michael Kors , Karl Lagerfeld , Benetton, Calvin Klein, Crocs , Guess, Lacoste, Diesel และอีกมากมาย อิสระอาหารกลางวันและเย็นตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบินมิลาน
21.30 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินมัสกัต ประเทศโอมาน โดยสายการบิน โอมานแอร์(WY) เที่ยวบินที่ WY144 (บริการ อาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6.15 ชั่วโมง)
06.45 น. เดินทางถึง สนามบินมัสกัต ประเทศโอมาน นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่อง เพื่อเดินทางสู่ ประเทศไทย (รอแวะเปลี่ยน เครื่องประมาณ 2.10 ชั่วโมง)
08.55 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิประเทศไทย โดยสายการบิน โอมานแอร์(WY) เที่ยวบินที่ WY815 (บริการ อาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง 40 นาที)
17.00 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ
1. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเลื่อน, ยกเลิกการเดินทาง หรือปรับราคาค่าบริการขึ้น ในกรณีที่มีผู้เดินทางน้อยกว่า 15 ท่าน
2. เมื่อท่านตกลงชำระเงินมัดจำหรือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านตัวแทนของบริษัทฯ หรือชำระโดยตรงกับทางบริษัทฯ ทางบริษัทฯ จะขอถือว่าท่านรับทราบและยอมรับในเงื่อนไขต่างๆที่บริษัทฯได้ระบุไว้ทั้งหมด
3. เนื่องจากตั๋วเครื่องบินเป็นตั๋วกรุ๊ปราคาพิเศษ ในกรณีที่ท่านไม่สามารถเดินทางพร้อมคณะไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ตั๋วเครื่องบิน ไม่สามารถ เลื่อนวันเดินทาง, เปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน หรือคืนเงินได้
4. หากสายการบินมีการปรับขึ้นของค่าภาษีสนามบิน หรือภาษีน้ำมัน ทางบริษัทจะเรียกเก็บเพิ่มตามจริง
5. หนังสือเดินทางต้องมีอายุเหลือการใช้งานมากกว่า 6 เดือน (นับจากวันเดินทางกลับ) และบริษัทฯ รับเฉพาะผู้มีจุดประสงค์ เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น
6. บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดทัวร์บางประการเมื่อเกิดเหตุสุดวิสัย อาทิเช่น เที่ยวบิน รายการท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
7. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดกรณีความล่าช้าจากสายการบิน, สายการบินยกเลิกเที่ยวบิน, การประท้วง, การ นัดหยุดงาน, การก่อจลาจล, โรคระบาด, ภัยธรรมชาติ, อุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัท
8. บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดสิ่งของสูญหาย อันเนื่องมาจากความประมาทของท่าน, เกิดจากการโจรกรรม และ อุบัติเหตุจากความประมาทของนักท่องเที่ยวเอง
9. บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น และไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายต่างๆ ในกรณีที่ผู้เดินทางไม่ผ่านการพิจารณาในการตรวจคน เข้าเมือง-ออกเมือง ไม่ว่าจะเป็นกองตรวจคนเข้าเมืองหรือกรมแรงงานของทุกประเทศในรายการท่องเที่ยว อันเนื่องมาจากการ กระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย การหลบหนีเข้าออกเมือง เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ
10. บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านใช้บริการของทางบริษัทฯไม่ครบ อาทิ ไม่เที่ยวบางรายการ, ไม่ทานอาหารบางมื้อ เนื่องด้วยค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ทางบริษัทฯได้มีการชำระค่าใช้จ่ายให้ตัวแทนต่างประเทศแบบเหมาขาดก่อนออกเดินทางแล้ว
11. รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สำรองโรงแรมที่พักในต่างประเทศ เรียบร้อยแล้ว โดยโรงแรมจัดในระดับใกล้เคียงกัน ซึ่งอาจจะปรับเปลี่ยนตามที่ระบุในโปรแกรม
12. การจัดการเรื่องห้องพัก เป็นสิทธิ์ของโรงแรมในการจัดห้องให้กับกรุ๊ปที่เข้าพัก โดยมีห้องพักสำหรับผู้สูบบุหรี่/ปลอดบุหรี่ โดย อาจจะขอเปลี่ยนห้องได้ตามความประสงค์ของผู้ที่พัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมให้บริการของโรงแรม ไม่สามารถยืนยันได้
13. กรณีมีผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ นั่งรถเข็น (WHEELCHAIR), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกในการเดินทาง ท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด (กรุณาแจ้งให้ทางบริษัทฯ ทราบ ล่วงหน้าก่อนทำการจอง)
14. ประกันการเดินทาง บริษัทฯ ได้จัดทำแผนประกันภัยการเดินทางสำหรับผู้เดินทางไปต่างประเทศ แบบ Group tour โดยแผน ประกันจะครอบคลุมอุบัติเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างช่วงที่เดินทาง และลูกค้าต้องทำการรักษาในโรงพยาบาลที่ประกัน ครอบคลุมการรักษาเท่านั้น (เข้ารับรักษาในรูปแบบอื่นๆ ประกันจะไม่ครอบคลุม) (เงื่อนไขตามกรมธรรม์สอบถามได้กับ เจ้าหน้าที่บริษัท)
15. ค่าประกันสุขภาพไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์ ท่านสามารถซื้อเพิ่มเติมเองได้
16. ทางบริษัทฯ ยึดตามประกาศของทางรัฐฯและประเทศที่เดินทางเป็นหลัก หากมีการเปลี่ยนแปลงหรือประกาศใดๆ ทาง บริษัทฯจะคำนึงถึงความปลอดภัยและประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ
17. มัคคุเทศก์ พนักงาน หรือตัวแทนของทางบริษัท ไม่มีอำนาจในการให้คำสัญญาใดๆ แทนบริษัท เว้นแต่ มีเอกสารลงนามโดยผู้มี อำนาจของบริษัทกำกับเท่านั้น
18. หากลูกค้าต้องจองตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ รถโดยสารภายในประเทศ หรือรถไฟ กรุณาแจ้งและสอบถามกับเจ้าหน้าที่ ของบริษัททราบก่อนจองทุกครั้ง ไม่เช่นนั้นบริษัทจะไม่รับผิดชอบทุกกรณีหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
19. ภาพที่ใช้ในโปรแกรมเป็นภาพที่ใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น
20. เอกสารต่างๆ ที่ใช้ในการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป ทางสถานทูตเป็นผู้กำหนดออกมา มิใช่บริษัททัวร์เป็นผู้กำหนด ท่านที่ มีความประสงค์จะยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง และครบถ้วนตามที่สถานทูตต้องการ เพราะจะมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของท่าน บริษัททัวร์เป็นแต่เพียงตัวกลาง และอำนวยความสะดวกในการยื่นวีซ่าเท่านั้น มิได้เป็นผู้พิจารณาวีซ่าให้กับท่าน การผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณาขึ้นอยู่กับสถานทูต
335/205 หมู่บ้าน บ้านริมสวนซีนเนอร์รี่ หมู่ที่ 12 ถ.สุขาภิบาล6 ตําบลบางพลีใหญ่ อําเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
Tax ID : 0115567009525